dot dot
dot
รับสร้างสระว่ายน้ำ
dot
bulletSwimming Pools & Spas
bulletFountains
bulletSteam & Sauna
dot
รับสร้างสระว่ายน้ำ

dot


สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
ADVANCE  HOME Co., Ltd.


Swimming Pools & Spas

รูปแบบสระว่ายน้ำ

 

      

                  Overflow                                                    Skimmer

 

สระว่ายน้ำมีรูปแบบระบบ 2 รูปแบบ คือ

 

1. ระบบ Overflow คือน้ำจะไหลจากสระว่ายน้ำมาลงที่รางน้ำขอบสระ จากนั้นไหลลงสู่ Surge Tank เข้ามาผ่านถังกรอง แล้วจึงไหลกลับเข้าไปในสระอย่างเดิม

-  มีรางน้ำ(Grating) อยู่รอบขอบสระว่ายน้ำ

-  ระดับน้ำจะอยู่ปริมขอบสระพอดี

-  มีบ่อพักน้ำ(Surge Tank) มีขนาดไม่น้อยกว่า 10 % ของสระว่ายน้ำ

-  รูปแบบสระจะดูสวยงามกว่าระบบ Skimmer

 

2. ระบบ Skimmer คือน้ำจะไหลจากสระผ่านช่องสี่เหลี่ยมตรงผนังสระ(Skimmer) เข้ามาผ่านถังกรอง แล้วจึงกลับเข้าสระเหมือนเดิม

-  ระดับน้ำจะอยู่ต่ำกว่าขอบสระว่ายน้ำ 10-20 ซม.

-  ราคาจะถูกกว่าระบบ Overflow

 


 ระบบกรองสระว่ายน้ำ

   

          Sand Filter                          D.E. Filter                    Cartridge Filter

 

ระบบกรองน้ำปัจจุบันมี 3 ระบบ ได้แก่

 

1. Sand Filter ใช้ทรายเป็นตัวกรอง สามารถกรองอนุภาคสิ่งสกปรก ขนาด 25 ไมครอน ปัจจุบันมีการนำ zeolite มาใช้แทนทราย ซึ่งทำให้กรองได้ละเอียดมากขึ้น เทียบเท่า D.E. Filter

 

2. D.E. Filter มีผ้าคอยซับผงกรองให้ยึดติด เป็นระบบที่กรองอนุภาคสิ่งสกปรกได้ละเอียด 3-5 ไมครอน

 

3. Cartridge Filter มีไสกรอง 3-4 ชั้น กรองอนุภาคสิ่งสกปรก ขนาด 5-10 ไมครอน นิยมใช้กับบ่อสปา

 


 

ระบบบำบัดน้ำ 

 

ระบบบำบัดน้ำที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มี 3 ระบบ คือ

 

1. ระบบคลอรีน ปัจจุบันนำคลอรีนมาฆ่าเชื้อโรคในรูปของ ของเหลว ผง เกล็ด หรือนำมาอัดเป็นก้อน โดยคลอรีนจะเป็นตัวฆ่าเชื้อโรค โดยจะทำการฆ่าเชื้อโรคได้ก็ต่อเมื่อน้ำมีค่า พีเอช อยู่ระหว่าง 7.2-7.8 ซึ่งหากน้ำมีค่าเป็นด่างก็จะเติมกรดเกลือลงไป หรือหากน้ำมีค่าเป็นกรดก็จะเติมโซดาแอชลงไป เพื่อปรับสมดุลน้ำให้มีค่าเป็นกลาง

 

2.ระบบเกลือ เป็นระบบที่ใช้เกลือธรรมชาติ(NaCL) มาผ่านกระบวนการ Electrotytic Process โดยเครื่อง Salt Chlorinator ทำให้กลายเป็นคลอรีนเหลว หรือโซเดียมไฮโปคลอไรด์ และไฮโดรเจน ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อโรค เช่นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ทำให้น้ำบริสุทธิ์ ใสสะอาด และน้ำในสระจะไม่มีกลิ่นคลอรีน ทำให้ไม่แสบจมูก และตา หรือระคายเคืองต่อผิวหนังแถมยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนังอีกด้วย

                             

                                 2 NaCl (s) + 2 H2O (l) 2 NaOH (aq) + H2 (g) + Cl2 (g)                            

3.ระบบโอโซน เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคสูงมาก การผลิตโอโซนจะใช้กรรมวิธีคายประจุไฟฟ้า โดยจะเกิดอีเล็กตรอน ซึ่งตัวอิเล็กตรอนนี้จะกระทำปฎิกิริยากับอณูของอ๊อกซิเจน ทำให้เกิดปรมาณูและอณูของอ๊อกซิเจนขึ้น และปรมาณูและอณูของออกซิเจน จะทำให้เกิดโอโซน(O3)

                                        O+  e-  =  O  +  O  +  e-

                                                    O+  e-  =  O2  +  e-

                                         O   + O2 =  O3

                                        O2   + O2 =  O+ O

 

 

  

ระบบคลอรีน

ระบบเกลือ

ระบบโอโซน

1.ใช้คลอรีนในการบำบัดสระ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี

1.ใช้เกลือในการบำบัดสระ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีเทียบเท่าคลอรีน

1.ใช้โอโซนในการบำบัดสระ ฆ่าเชื้อโรคได้ดีที่สุด

2.ถ้าดูแลไม่ดี ทำให้มีคลอรีนหลงเหลือในสระ ทำให้ไม่ปลอดภัย

2.มีความเค็มเพียงครึ่งหนึ่งของน้ำตาคนเท่านั้น

2 ต้องมีระบบเกลือหรือคลอรีนควบคู่ไปด้วย เพื่อให้มีค่าคลอรีนอิสสระในน้ำตามมาตรฐานที่กำหนด

3.ต้องคอยตรวจสอบปริมาณของคลอรีนอิสสระในน้ำตลอดเวลา

3.เกลือ(Nacl)ไม่สูญหายไปไหนนำมาใช้ใหม่ได้ตลอดเวลา จะหายไปก็แค่ถ้ามีน้ำสูญหายไปจากสระเท่านั้น

3.ค่าใช้จ่ายตอนเริ่มต้นจะแพงที่สุด

4.ถ้าปริมาณคลอรีนในสระไม่เพียงพอในการฆ่าเชื้อโรคจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

4.ไม่แสบตา ,ไม่ระคายผิวหนัง ,ไม่มีกลิ่นฉุน

 

5.มีผลข้างเคียงจากคุณสมบัติของคลอรีน

5.การดูแลทำความสะอาดสระ จะยากกว่าระบบคลอรีนนิดหน่อย

 

6.ค่าใช้จ่ายตอนเริ่มต้นน้อยสุด

6.ค่าใช้จ่ายตอนเริ่มต้นจะแพงกว่าคลอรีน

 

7.ค่าดูแลรักษารายเดือนจะแพงกว่าเกลือและโอโซน

7.ค่าดูแลรักษารายเดือนจะถูกสุด

 

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.

P LAB co., ltd.
46/14 Tiwanon Rd., Pakkret, Nonthaburi, Thailand 11120
Tel:02-1955100
Mobile 086-3399053
LINE ID : TOPATPOOL